# จากโรงพยาบาลเม่นแคระ

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา โรงพยาบาลสัตว์บางนา โดยผู้เขียนได้มีโอกาสรักษาเม่นแคระอยู่หลายเคสทีเดียว เลยฉุกคิดได้ว่าแม้ในช่วงเวลานี้กลุ่มผู้ที่นิยมเลี้ยงสัตว์ประเภทพิเศษอย่างเจ้าเม่นแคระก็ยังมีจำนวนอยู่พอสมควรทีเดียว
ทั้งที่ตอนนี้ความนิยมในการเลี้ยงสัตว์ประเภทพิเศษเหล่านี้จะเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆไปบ้างแล้ว จริงๆถ้าไปเดินเที่ยวสวนจตุจักรเป็นประจำก็จะทราบได้ว่า ณ ตอนนี้คนเค้าจะฮิตเลี้ยงตัวอะไรกันบ้าง เป็นแฟชั่นอย่างหนึ่งของคนรักสัตว์รึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆเราคงต้องเลี้ยงเค้าอย่างถูกวิธีดังที่ควรจะเป็นตามชนิดของเค้านั่นแหละค่ะ ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของคนรักสัตว์จริงๆ
วันนี้เลยได้โอกาสหยิบเอาเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยอย่างเม่นแคระมาเป็นพระเอกของบทความในวันนี้


เม่นแคระ หรือ Hedgehog ถ้าแปลตามชื่อคือ ที่กั้นซึ่งมีลักษณะแหลมและมีจมูกเหมือนหมู นั่นคือรูปร่างลักษณะที่เด่นชัดของเจ้าเม่นแคระตัวน้อยนี่เอง
ขึ้นชื่อว่าเม่นก็ต้องมีหนามแหลมๆเป็นจุดเด่น แต่ว่าหนามแหลมของเค้าไม่ได้มีพิษภัยที่จะทำร้ายเราได้ นอกจากมีไว้ป้องกันตัว หนามของเม่นทำมาจาก keratin ซึ่งก็เป็นองค์ประกอบเดียวกับเล็บและผมของเรานี่เอง หนามจะมีลักษณะกลวงและปลายแหลมเล็กคล้ายเข็ม และจะมีการผลัดหนามออกไปคล้ายกับการผลัดขนของสุนัขไปตามช่วงอายุ บางครั้งจะพบว่าหนามจะร่วงหลุดแหว่งหรือบางลงไปถ้าเม่นแคระป่วย
เม่นแคระจัดเป็นสัตว์ที่หากินเวลากลางคืน เพราะเหตุนี้คนที่เลี้ยงเม่นแคระ จะพบว่ากลางวันเม่นจะนอนเกือบตลอดทั้งวัน พอตกดึกก็เดินกุกกักแทบทั้งคืนเลย           โดยปกติตามธรรมชาติเม่นแคระจะเป็นผู้ถูกล่า ดังนั้นเวลาเค้าตกใจกลัวก็จะหดตัวเป็นลูกกลมๆคล้ายลูกบอลและหนามแหลมที่ตัวจะตั้งแข็งกว่าปกติ จากนั้นก็จะกลิ้งตัวหนีไป แต่บางครั้งอาจกลิ้งเข้าไปชนศัตรูซึ่งพบได้น้อยมาก เม่นแคระใช้เสียงกรนในคอสื่อสารกันรวมทั้งเวลากลัวหรือตกใจก็จะส่งเสียงกรนคล้ายเสียงขู่ในลำคอด้วยเช่นกัน
อาหารตามธรรมชาติส่วนใหญ่ของเม่นแคระเป็นพวกพืชและสัตว์เล็กๆ เช่น แมลงเล็กและไส้เดือน รวมถึงซากพืชและซากสัตว์ต่างๆ  เมื่อเรานำเอาเม่นแคระมาเลี้ยงก็ควรจะให้อาหารตามแบบข้างต้นและผลไม้เสริมบ้าง และให้อาหารเม็ดสำหรับเม่นแคระเป็นหลักในปริมาณเหมาะสม ส่วนอาหารเม็ดสำหรับ ferret  หรืออาหารเม็ดแมวสูตรควบคุมนำหนักและสูตรแมวแก่ ก็สามารถใช้เลี้ยงเม่นแคระได้ ส่วนอาหารเม็ดสุนัขไม่ค่อยแนะนำ เพราะระดับโปรตีนต่ำเกินไปและไขมันสูงเกินไป จะทำให้เกิดโรคอ้วนและมะเร็งได้ถ้าให้ในระยะยาว



เม่นแคระมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 2-4  ปีตามธรรมชาติ แต่ถ้าเราเลี้ยงอย่างถูกหลักได้มีการศึกษาพบว่า เม่นแคระที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์จะมีอายุขัยเฉลี่ยยาวกว่าตามธรรมชาติ จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ  4-7  ปี เนื่องจากไม่พบปัญหาการถูกล่าจากผู้ล่าตามธรรมชาติ นี่เป็นข้อดีของการเอาเม่นแคระมาเลี้ยงอย่างถูกวิธีนะคะ
เม่นแคระมีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมอย่างกะทันหันได้น้อยมาก แต่มีการปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ดีพอควร จึงต้องระวังเรื่องอุณหภูมิและความสะอาดของวัสดุรองนอนเป็นพิเศษ 




โรคที่พบได้บ่อยในเม่นแคระได้แก่
  • มะเร็ง โดยมากจะลามไปที่กระดูกได้ค่อนข้างเร็ว
  • โรคอ้วน ซึ่งจะมีผลต่อตับและหัวใจตามมาด้วยเช่นกัน
  • โรคทางระบบประสาท (Wobbly Hedgehog Syndrome) พบได้ค่อนข้างบ่อย จะพบว่าเริ่มจากอาการกล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรงและจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ
  • โรคผิวหนังต่างๆ เช่น ผิวหนังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และขี้เรื้อน ซึ่งเม่นแคระจะมีอาการคันมาก บางครั้งขนหรือหนามก็จะร่วง ผิวหนังแดงอักเสบ เมื่อพบอาการเหล่านี้ควรรีบพาเม่นแคระของเราไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน เพื่อการรักษาอย่างทันท่วงทีค่ะ และรีบแยกตัวป่วยออกจากตัวอื่นในกรณีที่เลี้ยงหลายตัวรวมกัน
  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

0 Response to "# จากโรงพยาบาลเม่นแคระ"